จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจ และบริษัทขนส่ง หลอกผู้เสียหายสูญเงินกว่า 14 ล้านบาท

17 มี.ค. 2565 11:08 , จำนวนผู้เช้าชม : 67609 คน

     เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) นำโดยพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผบช.น. พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 พ.ต.อ.ดํารงศักดิ์ สว่างงาม รองผบก.น.8 ร่วมกันแถลง พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม ผกก.กก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.ฉัฐกิตติ์ ผดุงจันทร์ธนัย ผกก.สน.สําเหร่ พร้อมตํารวจ กก.สส.บก.น.8 และ สน.สําเหร่ ร่วมกันจับกุม นายยงยุทธ ศาสตร์สัมฤทธิ์ อายุ 37 ปี นายธีรพงศ์ น้อยเพ็ง อายุ 21 ปี นางเพ็ญอนงค์ แก้วเจริญ อายุ 61 ปี และ น.ส.นันทวัน วงษสุวรรณ อายุ 21 ปี ในฐานความผิด”ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ”

 

     สืบเนื่องจาก กก.สส.บก.น.8 ได้รับการประสานจาก สน.สําเหร่ว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.สําเหร่ ว่าเมื่อวันที่ 17 พ.ย.64 เวลาประมาณ 18.00 น. ได้รับการติดต่อจากคนร้าย โดยอ้างว่าเป็นพนักงานบริษัท ขนส่ง DHL สาขาแหลมฉบัง แจ้งว่ามีพัสดุที่ผู้เสียหายเป็นผู้ส่งไปยังประเทศจีน ให้กับ นาย Cheng Li เมื่อวันที่ 1 พ.ย.64 พัสดุดังกล่าวถูกอายัดไว้ที่ศุลกากรสาขาแหลมฉบัง และบอกความผิดของการอายัดพัสดุนั้น ให้เป็นความผิดตามกฎหมาย คือ พบหนังสือเดินทางปลอม จํานวน 12 เล่ม ,สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ รวม 9 เล่ม ,บัตรเอทีเอ็ม 9 ใบ ถูกอายัดไว้ที่ศุลกากร จากนั้นแจ้งหมายเลขอ้างอิงพัสดุให้ผู้เสียหายทราบเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หลังจากนั้นคนร้ายได้บอกกับผู้เสียหายว่าจะโอนสายให้พูดคุยกับคนร้ายที่อ้างตัวว่าเป็น พ.ต.ท.พีระพงศ์ หนูชนะ เจ้าหน้าที่ตํารวจสังกัด สภ.แหลมฉบัง เพื่อแจ้งความและขอให้ทาง สภ.แหลมฉบัง ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ DHL สาขาแหลมฉบัง

 

 

     เมื่อโอนสายไปหาผู้ที่อ้างตัวเป็น พ.ต.ท.พีรพงศ์ ได้แจ้งกับผู้เสียหายว่า หลังจากที่พบพัสดุที่ผู้เสียหายส่งไปถึง นาย Cheng Li ที่ประเทศจีน จึงได้ตรวจสอบดูในระบบ พบว่าผู้เสียหายมีชื่อเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินร่วมกับผู้ต้องสงสัยอีก 12 คน โดยมี นายนที ปานทอง ได้ให้การซัดทอดมาถึงผู้เสียหายว่าผู้เสียหายเป็นผู้ขายสมุดบัญชีให้กับ นายนที จากนั้นได้โอน สายผู้เสียหายไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ จากนั้นมีคนร้ายรับสายอ้างว่าชื่อ พ.ต.อ.ภูวนารถ ดวงดี แจ้งกับผู้เสียหายว่าเป็น ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ จากนั้นได้ขอไอดีไลน์ของผู้เสียหาย และได้โทรไลน์มาหาผู้เสียหาย โดยหลอกลวงผู้เสียหายว่า เพื่อความบริสุทธิ์ จําเป็นต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหาย ขอให้ผู้เสียหายโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีธนาคารทั้งหมด ของผู้เสียหายไปตรวจสอบ

 

 

     หลังตรวจสอบเส้นทางการเงินเรียบร้อยแล้ว ก็จะโอนเงินคืนกับมาให้ผู้เสียหาย ภายใน 1 วัน ผู้เสียหายหลงเชื่อและหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้โอนเงินไปเข้าบัญชีคนร้ายภายใน 1 ชั่วโมง จำนวน 5 บัญชี โดย 4 บัญชี เงินถูกส่งไปต่างประเทศ สามารถอายัดได้ 1 บัญชี จำนวน 1,801,018.10 บาท ซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 14,700,000 บาท ตํารวจจึงสืบสวนขยายผล พบว่าแก็งคอลเซ็นเตอร์นี้ มีผู้ร่วมกระทําความผิด จํานวน 12 ราย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน สน.สําเหร่ ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทําความผิดมา ดําเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วจํานวน 4 คน พร้อมทั้งยึดเงิน เศษ ส่งคืนผู้เสียหายในคดีนี้ได้จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ” ส่งตัวให้สน.สำเหร่ ดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาคน อื่นอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดําเนินคดีตามกฎหมาย

 

ขอขอบคุณ

มติชน https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3235816

ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6944970